2024-02-27 09:20:37
จำนวนครั้งที่อ่าน : 19
cleansingหรือที่เรียกอีกอย่างว่า make up remover หรือ remover เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีหน้าที่หลัก คือ ใช้ลบเครื่องสำอาง ด้วยวิธีการเช็ดออก มักใช้ในตอนกลางคืนหลังเลิกงาน สำหรับสาว ๆ ที่แต่งหน้าในตอนเช้า แล้วต้องการลบออก โดยหากใครต้องการเริ่มบำรุงผิวในตอนกลางคืน การล้างเครื่องสำอางออกด้วยคลืนซิ่ง ถือว่าสำคัญมาก ๆ และเป็นขั้นตอนแรกที่ควรทำ เพราะในเครื่องสำอางและครีมกันแดดหลาย ๆ ตัวนั้นมีคุณสมบัติของการกันน้ำอยู่ ถ้าไม่เช็ดเครื่องสำอางหรือครีมกันแดด ด้วยคลีนซิ่งออกให้หมดก่อนอาจจะทำให้เกิดการอุดตันของสิ่งสกปรกที่มาจากคราบเครื่องสำอางเก่า จนก่อให้เกิดสิวได้ และจะทำให้ครีมบำรุงตัวอื่น ๆ ไม่สามารถซึมเข้าสู่เซลล์ผิว บำรุงผิวหน้าของเราได้อย่างลุ่มลึกในลำดับถัดไป
คลีนซิ่ง มีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้งาน ซึ่งถึงแม้จะมีจุดประสงค์เดียวกันนั่นคือ ล้างเครื่องสำอางออกจากใบหน้า แต่ด้วยสภาพผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน สไตล์การแต่งหน้าก็มีความหนาบางแตกต่างกัน จึงมีการออกแบบให้คลีนซิ่งมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิว ตลอดจนมีคุณสมบัติที่ช่วยในการล้างเครื่องสำอางยากง่ายแตกต่างกันด้วย โดยมีประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
Cleansing มีกี่ชนิด
มีลักษณะเหมือนทิชชู่เปียก หรือ Baby wipe ทั่วไป แต่แตกต่างกันตรงที่มีส่วนประกอบเป็นตัวทำความสะอาดเครื่องสำอาง ใช้งานสะดวกสบายที่สุด เพียงแค่ดึงแล้วเช็ดหน้า ก็จะล้างเครื่องสำอางออกได้ทันที สามารถไปล้างหน้าด้วยโฟมต่อได้เลย เหมาะกับการพกพาไปใช้นอกสถานที่ หรือการเดินทาง รวมถึงเอาไว้ใช้ในการซ่อมแซมเครื่องสำอาง เวลาที่เราแต่งหน้าพลาด วิธีการใช้งาน ให้เช็ดลงบนผิวหน้าได้เลย และควรจะเปลี่ยนแผ่นใหม่ เมื่อแผ่นเดิมมีคราบเครื่องสำอางเต็มแผ่นแล้ว และให้เช็ดต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าที่จะไม่มีคราบเครื่องสำอางติดแผ่นทิชชู่ออกมา ข้อควรระวังคือ ไม่ควรเช็ดถูหน้าแรง ๆ เพราะจะให้ผิวแสบ แห้ง เป็นขุยและเกิดริ้วรอยได้
เป็นผลิตภัณฑ์คลีนซิ่งที่ได้รับความนิยม มีเนื้อคลีนซิ่งค่อนข้างเหลวคล้ายกับน้ำ มีส่วนผสมของน้ำมันน้อย หรือไม่มีเลย (Oil free) เวลาเช็ดเครื่องสำอางออกจะไม่เหนียวหน้า ไม่มีความมันตกค้าง วิธีการใช้คือ เทผลิตภัณฑ์ลงบนสำลีให้ชุ่ม แล้วเช็ดลงบนผิวหน้าที่แห้ง เช็ดและเปลี่ยนสำลีไปเรื่อย ๆ จนกว่าผิวจะสะอาดคือ ไม่มีคราบเครื่องสำอางติดมาบนแผ่นสำลีอีก สามารถทำความสะอาดผิวได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ไม่สามารถทำความสะอาดเครื่องสำอางชนิดกันน้ำสุด ๆ และพวกมาสคาร่ากันน้ำได้อย่างหมดจด
เป็นคลีนซิ่งที่มีเนื้อเป็นลักษณะเจลสีขุ่นหรือใส เหมาะกับคนที่แต่งหน้าแบบบางเบา หรือไม่แต่งหน้า วิธีการใช้คือ นวดเจลลงบนผิวหน้าที่แห้ง จนเนื้อเจลหลอมรวมกับสิ่งสกปรก และมีลักษณะเหลวลงกว่าเดิม จึงทำการล้างออก โดยใช้ผลิตภัณฑ์ทีละน้อย (1 ปั๊ม) ก่อน เมื่อรู้สึกว่านวดไปแล้วฝืดมือจึงค่อย ๆ เพิ่มผลิตภัณฑ์อีก ไม่ควรนวดลงไปทั้งที่ผิวฝืด ๆ เพราะอาจจะทำให้ระคายผิว และเกิดริ้วรอยได้ โดยมีทั้งประเภทที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบมากเมื่อล้างน้ำแล้วกลายเป็นน้ำนม , แบบที่ไม่มีน้ำมันผสมหรือมีน้อย ไม่กลายเป็นน้ำนมเมื่อโดนน้ำ, แบบ 2 in 1 เมื่อโดนน้ำแล้วกลายเป็นโฟม สามารถล้างทำความสะอาดได้ในขั้นตอนเดียว โดยหากอยากรู้ว่าคลีนซิ่งเจลนั้นเป็นประเภทใด ให้สังเกตจากวิธีการใช้ที่บรรจุภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นเหมือนโลชั่น มีส่วนประกอบของน้ำมัน แต่ไม่ข้นจนถึงแบบครีม วิธีการใช้คือ ใช้ผลิตภัณฑ์นวดลงบนผิวหน้าที่แห้ง จนสิ่งสกปรกต่าง ๆ ละลายออกมา จากนั้น ใช้สำลีแผ่นชุบน้ำบีบหมาดแล้วเช็ดคราบโลชั่นออก สามารถทำซ้ำได้อีกถ้ารู้สึกว่าในครั้งแรกยังสะอาดไม่พอ จากนั้น จึงไปล้างหน้าตามปกติ ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้สามารถทำความสะอาดรองพื้นแบบบางเบา และ BB ครีม CC ครีมได้ดี
มีลักษณะคล้ายกับคลีนซิ่งมิลค์และคลีนซิ่งโลชั่น แต่มีความเข้มข้นมากกว่าและมีส่วนประกอบของน้ำมันมากกว่า สามารถขจัดรองพื้นประเภทกันน้ำได้ดี วิธีการใช้คือ ใช้ผลิตภัณฑ์นวดลงบนผิวหน้าที่แห้ง จนสิ่งสกปรกต่าง ๆ ละลายออกมา จากนั้น ใช้สำลีแผ่นชุบน้ำบีบหมาดแล้วเช็ดคราบสิ่งสกปรกออก และสามารถทำซ้ำได้อีกถ้ารู้สึกว่าในครั้งแรกยังไม่สะอาด
เป็นผลิตภัณฑ์คลีนซิ่งที่มีเนื้อเป็นน้ำมันใส ๆ มีส่วนประกอบของ Mineral Oil และ Emulsifier ที่เป็นตัวกลาง ทำให้น้ำรวมตัวกับน้ำมันได้ สามารถทำความสะอาดเครื่องสำอางได้ดีที่สุด โดยเฉพาะแบบกันน้ำ แต่หลาย ๆ คนมักไม่ชอบใช้ เพราะรู้สึกกลัวว่าจะเพิ่มความมันให้ผิว หรือกลัวว่าจะอุดตัน ซึ่งป้องกันได้โดยการล้างออกให้สะอาด ด้วยการใช้น้ำลูบหน้าแล้วนวดจนน้ำมัน กลายเป็นน้ำนมออกมาให้มากที่สุด จากนั้น ใช้น้ำเปล่าล้างหน้าจนหมดคราบน้ำนม แล้วจึงล้างหน้าได้ตามปกติ
เพราะทุกคนมีสภาพผิวที่แตกต่างกัน ทำให้การเลือกcleansing ให้เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากใช้ไม่ถูกแล้ว อาจจะทำให้ล้างเครื่องสำอางได้ไม่หมดจด ที่สำคัญยังอาจทำให้ส่วนประกอบในคลีนซิ่งเข้าไปอุดตันตามเซลล์ผิวและรูขุมขน เป็นผลเสียต่อใบหน้าของเราได้ โดยสภาพผิวแต่ละแบบที่เหมาะกับคลีนซิ่งประเภทต่าง ๆ คือ
ผิวมัน เกิดจากเซลล์ผิวมีการผลิตไขมันออกมามากเกินไป จนเป็นคราบความมันส่วนเกิน ทำให้ใบหน้ามีโอกาสเป็นสิวได้ง่ายกว่าสภาพผิวอื่น ผู้ที่มีผิวมันบนใบหน้า จึงควรใช้คลีนซิ่งน้ำ ในการล้างเครื่องสำอางออก เพราะไม่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ จึงตอบโจทย์คนมีผิวมันได้เป็นอย่างดี ในขณะที่คลีนซิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับผิวมัน ก็คือ คลีนซิ่งน้ำมัน ซึ่งอาจจะทำให้ผิวหน้ามีความมันมากยิ่งขึ้น และอาจทำให้เกิดสิวได้นั่นเอง
หากใครมีสิวขึ้นบ่อย ทั้งที่หน้าไม่ค่อยมัน นั่นอาจเป็นเพราะบนผิวหน้าของเรา มีเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก ได้รับการระคายเคืองเป็นประจำ หรือ อาจมีลักษณะผิวที่อาจก่อให้เกิดสิวได้ง่าย เช่น รูขุมขนใหญ่ ซึ่งจะทำให้มีการผลิตน้ำมันออกมาและเกิดการอุดตันได้ง่าย คลีนซิ่งที่ควรใช้ จึงเป็นคลีนซิ่งน้ำนม เพราะมีความอ่อนโยนและความชุ่มชื้น ทำให้สามารถควบคุมความมันได้ ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง และไม่ทำให้เกิดสิว ส่วนคลีนซิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ก็คือ คลีนซิ่งน้ำมัน เนื่องจากอาจทำให้เกิดเป็นความมันส่วนเกิน และอาจทำให้เกิดการอุดตันจนเป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบ หรือ สิวหัวหนองขึ้นได้
ผิวผสม เป็นผิวที่มีบางส่วนเท่านั้นที่เกิดคราบความมันส่วนเกินมาก โดยตรงจุดบริเวณที่มีความมันมากกว่าบริเวณอื่น เรียกว่า ทีโซน (T-Zone) ได้แก่ หน้าผาก จมูก และคาง ซึ่งตรงจุดนี้มักจะทำให้เกิดสิวอยู่เป็นประจำ หากใครมีสิวขึ้นบ่อยบริเวณนี้ ควรใช้คลีนซิ่งน้ำ โดยหากต้องการความชุ่มชื้นและอ่อนโยนที่มากขึ้นก็สามารถใช้คลีนซิ่งน้ำนมได้เช่นกัน สำหรับคลีนซิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับผิวผสม ก็คือ คลีนซิ่งน้ำมัน เพราะอาจทำให้บริเวณทีโซนมีความมันมากกว่าเดิม ทำให้เกิดการอุดตันและเกิดเป็นสิวขึ้นได้
ผิวแห้ง เป็นผิวที่มีการผลิตน้ำมันออกมาค่อนข้างน้อย จึงทำให้ผิวมักขาดความชุ่มชื้นอยู่เสมอ ซึ่งหากผิวแห้งขาดความชุ่มชื้นสะสมเป็นเวลานานก็อาจจะทำให้ผิวเกิดความหมองคล้ำ แห้งเป็นขุย หรืออาจเกิดเป็นริ้วรอยก่อนวัยได้ จึงควรใช้คลีนซิ่งน้ำมัน หรือ คลีนซิ่งออยล์ เพื่อให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ หรืออาจใช้คลีนซิ่งครีม ซึ่งเป็นคลีนซิ่งที่อ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้นแบบจัดเต็มสุด ๆ ก็ได้ โดยคลีนซิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับผิวแห้ง ก็คือคลีนซิ่งน้ำ เพราะอาจทำให้ผิวแห้งกว่าเดิมได้
หากเป็นคนผิวแพ้ง่าย ไม่ว่าจะจาก ฝุ่นละออง สารเคมี เครื่องสำอาง หรือแม้กระทั่งผลิตภัณฑ์ล้างหน้าเองก็ตาม จึงต้องระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์และเครื่องสำอางเป็นพิเศษ ซึ่งคลีนซิ่งที่เหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย คือ คลีนซิ่งเจล เนื่องจากเป็นคลีนซิ่งที่มีความอ่อนโยนแบบสุด ๆ ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว แต่อาจต้องใช้เวลาในการทำความสะอาดนานสักหน่อย ส่วนคลีนซิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย คือ คลีนซิ่งน้ำและคลีนซิ่งน้ำมัน เนื่องจาก คลีนซิ่งน้ำอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองในผิวแพ้ง่ายได้ และคลีนซิ่งน้ำมันก็อาจก่อให้เกิดการอุดตันได้ง่ายในผิวแพ้ง่ายเช่นกัน
ตรีชฎา-คลินิก คลินิกรักษาสิว จังหวัดอุบลราชธานี รักษาสิว ทุกชนิด สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวฮอร์โมน สิวสเตียรอยด์ แพ้ครีม แพ้เครื่องสำอาง ทรีทเม้นท์ ไอพีแอล เลเซอร์ คิดถึงเรา โทร 061-550-9396 LINE ID: @629inyrd
Share to Social Networks
บริการเว็บไซต์โดย 8columns.com