เกร็ดความรู้ เรื่อง เทอร์มาจ Thermage

Thermage คืออะไร?

เทอร์มาจ (Thermage) คือ เครื่องปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุ (Radio Frequency) เพื่อแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ไม่กระชับของผิว รวมถึงริ้วรอยแห่งวัยต่างๆ ผ่านการใช้คลื่นพลังงานที่ปล่อยลงสู่ใต้ชั้นผิวของผู้เข้ารับบริการ

Thermage ทำงานอย่างไร?

Thermage จะส่งพลังงานคลื่นวิทยุซึ่งมีความร้อน 40-50 อาศาเซลเซียสลงไปถึงชั้นไขมันซึ่งเป็นชั้นผิวหนังส่วนลึกเพื่อกระตุ้นการหดตัวของเส้นใยคอลลาเจน ทำให้ผิวเกิดความกระชับแน่นเข้าหากัน โดยคลื่นพลังงานนี้ยังช่วยเร่งกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่ให้กับผิว ส่งผลให้สุขภาพผิวที่อ่อนแอ ได้รับการกระตุ้นให้กลับมาแข็งแรง และทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ขึ้น

เครื่อง Thermage มีกี่รุ่น?

เครื่อง Thermage ได้มีการพัฒนาตัวเครื่องออกมาแล้วหลายรุ่น เพียงแต่ไม่ว่าจะรุ่นไหนก็มักจะถูกเรียกเหมารวมว่า “เครื่อง Thermage” เหมือนๆ กันหมด ได้แก่

เครื่อง Thermage TC เป็นเครื่องที่ถูกพัฒนาและเริ่มใช้งานในปี 2003

เครื่อง Thermage NXT เป็นเครื่องที่ถูกพัฒนาและเริ่มใช้งานในปี 2007

เครื่อง Thermage CPT เเป็นเครื่องที่ถูกพัฒนาและเริ่มใช้งานในปี 2009

เครื่อง Thermage FLX เป็นเครื่องที่ถูกพัฒนาและเริ่มใช้งานในปี 2018

ส่วนมากหลายสถานพยาบาลจะนิยมใช้งานเครื่อง Thermage FLX ซึ่งเป็นเครื่อง Thermage รุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับการพัฒนาให้สามารถดูแลผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ชื่อรุ่น “FLX” ของตัวเครื่องก็มีที่มาจากการพัฒนาระบบภายในตัวเครื่อง Thermage ให้สามารถดูแลรักษาผิวได้ดีกว่าเครื่องรุ่นเก่า ซึ่งได้แก่

F มาจาก “Faster” หมายถึง การยิงพลังงานลงใต้ชั้นผิวที่เร็วขึ้น

L มาจาก “Algorithm” หมายถึง การคำนวณพลังงานของตัวเครื่อง Thermage ที่แม่นยำมากขึ้น เพื่อให้สามารถปล่อยพลังงานได้อย่างแม่นยำทุกจุด และลงลึกถึงใต้ชั้นผิวได้มากกว่าเดิม

X มาจาก “Experience” หมายถึง การได้รับประสบการณ์ฟื้นฟูผิวที่เจ็บน้อยลง รู้สึกสบายผิว ลดโอกาสผิวไหม้หรือแสบผิวมากในระหว่างหรือหลังรับบริการ

Thermage ทำส่วนไหนได้บ้าง?

เครื่อง Thermage สามารถรักษาผิวได้ทั้งในส่วนใบหน้าและลำตัว โดยสามารถปรับปัญหาผิวใบหน้าได้ตั้งแต่บริเวณหน้าผาก รอบดวงตา แก้ม กรอบหน้า ไปจนถึงใต้ลำคอหรือเหนียง

ส่วนบริเวณลำตัวนั้นก็สามารถใช้เครื่อง Thermage ยกกระชับได้ เช่น บริเวณต้นแขน หน้าท้อง สะโพก ต้นขา อย่างไรก็ตาม ผู้เข้ารับบริการส่วนมากจะนิยมใช้เครื่อง Thermage ปรับสภาพผิวบริเวณใบหน้ามากกว่า

ผลลัพธ์หลังทำ Thermage อยู่ได้นานไหม?

การทำเทอร์มาจเพียงครั้งเดียว ผู้เข้ารับบริการจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของผิวได้อย่างชัดเจน โดยจะเห็นได้ชัดที่สุดหลังจากรับบริการไปแล้วประมาณ 6 เดือน และจะคงอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี

อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยขึ้นกับพฤติกรรมการดูแลผิวของแต่ละคน จำนวนช็อตส์ หรือบริเวณที่ทำ

Thermage อันตรายไหม?

เครื่อง Thermage (เทอร์มาจ) เป็นนวัตกรรมที่ได้รับการยอมรับมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอมริกา หรือ U.S. FDA รวมถึงได้รับการยอมรับการองค์การอาหารและยาของประเทศได้ด้วย จึงมีความปลอดภัยสูง และมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้น้อยมาก

ข้อดีของการทำ Thermage

การทำ Thermage เป็นการยกกระชับผิวที่ให้ผลลัพธ์ยาวนานแทบจะที่สุดในกลุ่มนวัตกรรมเพื่อการยกกระชับผิวทั้งหมด โดยอยู่ได้นาน 1-2 ปี เทียบกับนวัตกรรมตัวอื่นๆ ที่ให้ผลลัพธ์ได้มากที่สุดอยู่ที่ 8-12 เดือนเท่านั้น

หลังจากทำ Thermage เสร็จแล้ว ผู้เข้ารับบริการยังไม่ต้องพักฟื้นแต่อย่างใดด้วย โดยสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที อีกทั้งหลังรับบริการเสร็จ ก็จะเห็นผลลัพธ์ได้เลยประมาณ 10-20%

นอกจากนี้เครื่อง Thermage ยังมีความปลอดภัยสูง และต้องมีการใช้งานผ่านแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น จึงช่วยลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

อย่างไรก็ตาม การทำ Thermage อาจสร้างความรู้สึกเจ็บหรือร้อนผิวในระหว่างรับบริการได้ แต่โดยทั่วไปจะอยู่ในระดับที่ทนไหว และอีกสิ่งที่อาจเป็นอุปสรรคทำให้หลายคนไม่สามารถรับบริการด้วยเครื่อง Thermage ได้ก็คือ ราคา โดยค่าใช้จ่ายในการทำ Thermage มักอยู่ในราคา 25,000 ขึ้นไป ซึ่งจัดเป็นราคาที่ค่อนข้างสูง

เทอร์มาจ (Thermage) แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง? เหมาะกับใคร?

Thermage สามารถรักษาครอบคลุมได้ตั้งแต่หน้าผาก หางตา ร่องแก้ม กรอบหน้า ใต้คาง ลำคอ ลงไปถึงพื้นที่ส่วนอื่นของร่างกายที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือมีเซลลูไลท์ เช่น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เอว สะโพก หรือก้น อย่างไรก็ตามเทอร์มาจโดดเด่นด้านการแก้ปัญหาความหย่อนยานและริ้วรอยของผิวดังนี้

ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวห้อย ไม่กระชับ

ปัญหาผิวรอบดวงตาหย่อนยาน เห็นถุงใต้ตาชัดเจน หางตาตก มีรอยตีนกา หรือรอยพับ

ร่องแก้มหย่อนยานจนเป็นรอยเส้นอย่างชัดเจน

เหนียงและผิวใต้คางไม่กระชับ

ผิวกรอบหน้าหย่อน หรือเริ่มห้อย

ปัญหากรอบหน้าใหญ่ ไม่เรียว หรือกรอบหน้าไม่ชัด

ผิวหน้าหมองคล้ำ ดูไม่สดใส หรือไม่อ่อนเยาว์

การทำ Thermage ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้โครงสร้างใบหน้าดูเป็นแบบ V Shape อย่างที่ได้รับความนิยมผ่านการยกกระชับกรอบหน้า และผิวที่แก้มให้เรียวชัดขึ้น รวมถึงยกกระชับผิวหนังส่วนอื่นให้องค์รวมทุกส่วนของผิวดูแน่นขึ้น

เครื่องเทอร์มาจ (Thermage) เปรียบเทียบกับนวัตกรรมกระชับผิวตัวอื่น

นอกจากเครื่อง Thermage แล้ว เครื่องปล่อยพลังงานเพื่อรักษาความหย่อนคล้อยของผิวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันจะมีอีก 2 เครื่อง คือ เครื่อง Ultraformer III และเครื่อง Ulthera ซึ่งเป็นเครื่องปล่อยพลังงานคลื่นอัลตราซาวด์เพื่อยกกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึง และได้รับการฟื้นฟูสุขภาพผิวให้กลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง

หากมองแบบภาพรวม นวัตกรรมทั้ง 3 เครื่องก็แทบไม่มีความแตกต่างกันมากนัก แต่ความจริงแล้วเครื่อง Thermage จัดเป็นนวัตกรรมยกกระชับผิวที่มีจุดเด่นเหนือกว่าทั้งเครื่อง Ultraformer III และเครื่อง Ulthera หลายส่วน ซึ่งโดยหลักๆ ได้แก่

ปล่อยพลังงานได้ลึกที่สุดถึงชั้นไขมัน ต่างจากเครื่อง Ultraformer III และเครื่อง Ulthera ที่คลื่นพลังงานลงลึกได้ถึงชั้นเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อส่วนบน หรือชั้นผิว SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) เท่านั้น

โดดเด่นด้านการยกกระชับริ้วรอย เช่น รอยตีนกา รอยพับ รอยเหี่ยวย่นขณะพูด ยิ้ม หรือแสดงสีหน้า จึงเหมาะกับผู้เข้ารับบริการวัยสูงอายุด้วย

สามารถลดปริมาณชั้นไขมันที่ทำให้พื้นที่ผิวดูใหญ่ ไม่กระชับ หรือหย่อนคล้อยได้

ช่วยให้ผิวอ่อนกว่าวัยหรือผิวดูเด็กลง ไม่ใช่เพียงเสริมสุขภาพผิวให้แข็งแรงหรือเรียบเนียนเท่านั้น

เห็นผลลัพธ์ได้อย่างยาวนานที่สุดถึง 1-2 ปี เทียบกับเครื่องอื่นๆ ที่ผลลัพธ์อยู่ได้ 6 เดือน - 1 ปีเท่านั้น

แม้จะเป็นนวัตกรรมที่เหนือระดับกว่าเครื่องอื่นๆ แต่เครื่อง Thermage ก็ยังมีความแตกต่างในการรักษาผิวที่ผู้เข้ารับบริการควรรู้

ความแม่นยำของคลื่นพลังงานจากเครื่อง Thermage เป็นคลื่นพลังงานใหญ่ที่จะขยายออกเป็นวงกว้าง ต่างจากคลื่นพลังงานของเครื่อง Ulthera ซึ่งเป็นคลื่นพลังงานที่มีขนาดเล็กแต่มีแนวแถวในการส่งคลื่นอย่างสม่ำเสมอกว่า ทำให้แพทย์สามารถกำหนดทิศทาง หรือพื้นที่ในการยกกระชับได้แม่นยำกว่าเครื่อง Thermage

ราคาสูง โดยค่าใช้จ่ายในการรับบริการรักษาผิวด้วยเครื่อง Thermage อยู่ที่หลักหมื่นจนถึงแสนบาท ทำให้ผู้เข้ารับบริการที่มีเงื่อนไขด้านงบประมาณไม่สะดวกใช้บริการ

ระดับความเจ็บ เมื่อเทียบกับเครื่อง Ultraformer III และ Ulthera นวัตกรรม Thermage ให้ความรู้สึกเจ็บระหว่างรับบริการได้มากที่สุด ทำให้ในช่วงแรกของการรักษาแพทย์จะปล่อยพลังงานในระดับเบาก่อน หากผู้เข้ารับบริการทนไหวจะค่อยเพิ่มระดับพลังงานมากขึ้น

ข้อจำกัดนี้อาจสร้างความไม่คุ้มค่าให้กับผู้เข้ารับบริการที่ไม่อาจทนความเจ็บได้ แม้จะทายาชาไปแล้วก็ตาม เพราะแพทย์ไม่สามารถเพิ่มระดับพลังงานไปจนถึงจุดสูงสุดได้ 

เทอร์มาจ (Thermage) ไม่เหมาะกับใคร?

ผู้ที่อาจต้องเลื่อนบริการรักษาผิวด้วยเครื่อง Thermage ไปก่อน หรือมีเงื่อนไขด้านสุขภาพที่ต้องปรึกษาแพทย์อย่างละเอียดก่อนรับบริการ เพราะเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ ได้แก่

หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร

ผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบ มีสิวอักเสบ หรือมีแผลสด แผลติดเชื้อบนผิวหนัง ควรเลื่อนนัดรับบริการออกไปก่อนหรือปรึกษาแพทย์ก่อนรับบริการ

ผู้ป่วยโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด โรคเกี่ยวกับระบบประสาท โรคเบาหวาน โรคลมชัก

ผู้ที่ฝังอุปกรณ์โลหะหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไว้ในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker)

หากผู้เข้ารับบริการเพิ่งผ่านการทำหัตถการ หรือเสริมความงามด้วยเทคโนโลยีอื่นๆ มาภายใน 1 เดือน เช่น เลเซอร์หน้า เลเซอร์กำจัดขน ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อกซ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับบริการ เพราะอาจต้องเลื่อนนัดออกไปก่อน

ข้อควรรู้ก่อนทำเทอร์มาจ (Thermage)

เพื่อความคุ้มค่าในการรับบริการ และเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทั้งด้านค่าใช้จ่าย ความปลอดภัยของร่างกาย ผู้เข้ารับบริการควรทราบข้อมูลดังต่อไปนี้ เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนใช้บริการทำเทอร์มาจในทุกสถานพยาบาล

จำนวนช็อตส์ในการปล่อยพลังงาน (Shots) เพราะค่าใช้จ่ายในการใช้เครื่อง Thermage จะเพิ่มขึ้นตามจำนวนช็อตส์ (Shots) ที่ใช้ หากไม่ใช่แพ็กเกจหรือโปรโมชั่นที่กำหนดจำนวนช็อตส์ชัดเจนอยู่แล้ว หลายสถานพยาบาลก็มักเสนอขายแพ็กเกจรักษาผิวจากเครื่อง Thermage ในจำนวนช็อตส์ที่สูงไว้ก่อนให้กับผู้เข้ารับบริการ ซึ่งความจริงแล้วผู้ที่วิเคราะห์จำนวนช็อตส์ในการรักษานั้นจะต้องเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ผู้เข้ารับบริการจึงควรเข้าปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจรับบริการทุกครั้ง เพื่อให้แพทย์วิเคราะห์ปัญหาผิวส่วนที่ต้องการรักษาเสียก่อน

Thermage เครื่องแท้ เนื่องจากปัจจุบันมีหลายสถานพยาบาลนำเข้าเครื่องปล่อยพลังงานความถี่วิทยุเข้ามา และแอบอ้างว่าเป็นเครื่อง Thermage หรืออ้างว่าเป็นเครื่องที่ให้ประสิทธิภาพไม่ต่างจากเครื่อง Thermage ของแท้ ผู้เข้ารับบริการหลายท่านที่หลงเชื่อการแอบอ้างเหล่านี้ อาจต้องเผชิญกับผลลัพธ์หลังรักษาที่ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ ไม่คุ้มค่าต่อราคาที่จ่าย รวมถึงเกิดผลข้างเคียงหลายอย่าง เช่น ผิวไหม้ เกิดรอยดำ ผิวบวม เกิดแผล

ทั้งนี้ผู้เข้ารับบริการทุกท่านต้องสังเกตรูปลักษณ์ของเครื่อง Thermage ซึ่งจะมีชื่อแบรนด์ “Thermage” ประทับอยู่ใต้จอแสดงผล หรือเสิร์ชดูรูปของเครื่อง Thermage ของแท้ผ่านทางอินเทอร์เน็ต รวมถึงดูรีวิว และสอบถามทางสถานพยาบาลให้แน่ใจก่อนว่า เครื่องเป็นของแท้ที่นำเข้ามาอย่างถูกต้อง หรือเข้ารับบริการกับคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือเท่านั้น

การเตรียมตัวก่อนทำเทอร์มาจ (Thermage)

ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนรับบริการทำเทอร์มาจ ไม่มีอะไรซับซ้อน โดยควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้

ก่อนรับบริการ ควรต้องมีการพบแพทย์เพื่อวิเคราะห์ปัญหาผิวที่ต้องการรักษา และเพื่อให้แพทย์ประเมินจำนวนช็อตส์

แจ้งโรคประจำตัว ยาประจำตัว วิตามิน อาหารเสริม สมุนไพรเสริมสุขภาพให้แพทย์ทราบล่วงหน้าก่อน เพราะอาจต้องงดรับประทานล่วงหน้าก่อนมารับบริการ

งดแต่งหน้า ทาผิวหรือครีมบำรุงมาในวันรับบริการ

ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนมารับบริการ

ขั้นตอนการทำเทอร์มาจ (Thermage) เป็นอย่างไร? ใช้เวลานานแค่ไหน?

ระยะเวลารักษาผิวด้วยเครื่องเทอร์มาจ (Thermage) จะอยู่ที่ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับกระบวนการของแต่ละสถานพยาบาล และจำนวนช็อตส์ที่ใช้รักษา โดยมีขั้นตอนหลักๆ ดังต่อไปนี้

ทำความสะอาดผิวบริเวณที่ต้องการรักษา

ทายาชาทิ้งไว้บนผิวประมาณ 45 นาที

ติดแผ่นเสริมการส่งคลื่นพลังงานจากเครื่องเทอร์มาจ (Thermage) ที่ร่างกายของผู้เข้ารับบริการ

ทาเจลเสริมความหล่อลื่นบนผิวบริเวณที่รักษา

ทาเจลเสริมความหล่อลื่นบนผิวบริเวณที่รักษา

แพทย์ตั้งค่าพลังงาน และปล่อยพลังงานจากเครื่อง Thermage ลงบนผิวทีละจุด

หลังจากปล่อยพลังงานครบจำนวนช็อตส์แล้ว เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดผิวให้อีกครั้ง

การดูแลตนเองหลังทำเทอร์มาจ (Thermage)

การดูแลตนเองเพื่อป้องกันผลข้างเคียงหลังรับบริการทำเทอร์มาจมีอยู่เล็กน้อย ได้แก่

งดการทำหัตถการเกี่ยวกับผิว เช่น การเลเซอร์ขน การฉีดสารต่างๆ เช่น ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ รวมถึงการทำทรีตเมนต์ สปาผิว ขัดผิว ประมาณ 2 สัปดาห์หลังรับบริการ

งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่แบบระยะยาว เพื่อเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นทำให้คอลลาเจนผิวเสื่อมตัวเร็วกว่าเดิม

สามารถแต่งหน้าและใช้ชีวิตได้ตามปกติ

หากต้องการฉีด Botulinum Toxin หรือร้อยไหม ควรเว้นระยะหลังจากทำเทอร์มาจไปแล้วประมาณ 1 เดือน