เกร็ดความรู้ เรื่อง ความแตกต่าง HIFU - Ulthera- Thermage

รู้หรือไม่ว่า HIFU, Ulthera และ Thermage แตกต่างกันอย่างไรบ้าง!

ทำความรู้จักความแตกต่างกับ 3 เทคโนโลยียกกระชับผิวที่จะช่วยทำให้ใบหน้ากระชับและเต่งตึงขึ้น ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยลดลง

ในปัจจุบันเทคโนโลยีนวัตกรรมการยกกระชับผิวมีหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบจะมีความแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำงานบนผิวเรา, ผลลัพธ์หลังจากทำเสร็จ, ระดับความเจ็บในขณะที่ทำหัตถการ รวมถึงราคาที่ไม่เท่ากัน โว้กบิวตี้พามาทำความรู้จักความแตกต่างของ HIFU, Ulthera และ Thermage ว่ามีข้อแตกต่างอย่างไรบ้างและแบบไหนที่เหมาะกับความต้องการของเรา

Thermage เป็นเครื่องมือยกกระชับผิวโดยใช้พลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุ (Monopolar RF) ซึ่งเป็นก้อนความร้อนขนาด 3-4 cm ช่วยเกลียวเส้นใยคอลลาเจนให้แข็งแรงและทำให้ผิวแน่นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดความตึงกระชับ มีไขมันส่วนเกินสะสมบริเวณใบหน้า แก้ม คาง เหนียง ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด ซึ่งเทอร์มาจสามารถช่วยยกกระชับผิว ลดริ้วรอย และปรับรูปหน้าให้เรียวสวยได้ โดยปราศจากบาดแผล

HIFU เป็นเครื่องมือยกกระชับผิว มีหลักการทำงานโดยปล่อยพลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง ส่งลงไปในชั้นผิวหนัง SMAS ทำให้ชั้นไขมันและชั้น SMAS เกิดการหดตัว เสมือนเป็นการดึงหน้า จึงช่วยให้ผิวดูยกกระชับ แก้ปัญหาแก้มย้อย เหนียง คอ และช่วยให้ผิวอ่อนเยาว์มากขึ้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวหน้ายืดหยุ่นมากขึ้น จึงช่วยลดริ้วรอย กระชับรูขุมขน ผิวเนียนนุ่มขึ้น มีความปลอดภัยสูง สามารถใช้ลดริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาได้เป็นอย่างดี

Ulthera เป็นเครื่องยกกระชับผิวและลดริ้วรอย โดยใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความถี่สูง (High Intensity Focused Ultrasound) ยิงลงไปใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวหดตัวและยกกระชับขึ้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน สามารถแก้ปัญหาผิวได้แม่นยำตรงจุด โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลลัพธ์ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ช่วยชะลออายุผิว และลดโอกาสเกิดริ้วรอยในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Ulthera SPT กับ HIFU ใช้พลังงานและกลไกในการยกกระชับผิวเหมือนกันที่รู้จักกับคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ ซึ่งจะช่วยในการยกกระชับผิว กระตุ้นคอลลาเจน และส่งพลังงานลงลึกได้ถึงผิวชั้น smas (ชั้นเดียวกับที่ใช้ผ่าตัดดึงหน้า) แต่เครื่องทั้งสองจะแตกต่างกันที่ขนาดจุดโฟกัส ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพที่ได้แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของผลลัพธ์และระยะเวลา ซึ่งระดับความลึกในการยิงของหัว Ulthera SPT ลึก 1.5 mm สำหรับริ้วรอยผิวชั้นบน, ลึก 3 mm สำหรับกระชับชั้นไขมัน และลึก 4.5 mm สำหรับยิงชั้น smas 

โดยตัวเครื่องทั้งสองเทคโนโลยีนี้จะยิงความร้อนเป็นจุดไข่ปลาเล็กๆ เรียงกันเป็นเส้นตรงใต้ผิว ซึ่งจะทำให้เกิดการหดของเนื้อเยื่อตามทิศทางของเส้นเลเซอร์ สามารถออกแบบทิศทางในการยิงได้ว่าต้องการให้แก้มยกกระชับขึ้นในแนวไหน การจะยิง Ulthera SPT ให้ได้ผลลัพธ์อยู่ได้ 1 ปีนั้น แต่ต้องแลกมาด้วยความเจ็บ ซึ่งคนส่วนมากจะบอกว่าเจ็บมากจนต้องขอให้แพทย์ปรับลดพลังงานลง จึงทำให้ผลอยู่ได้สั้นลง มีคนไข้จำนวนน้อยเท่านั้นที่สามารถทนเจ็บไหวเพื่อให้ผลอยู่ได้ 1 ปี

   ส่วนเทอร์มาร์จจะใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Monopolar RF) มีพลังงานจะอยู่ที่ 40-50°C เป็นวงกว้าง ครอบคลุมทั้งชั้นผิว ช่วยในเรื่องลดไขมันและช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม แต่ไม่สามารถยิงให้ผิวยกกระชับได้ดีเท่า Hifu/Ulthera SPT เหมาะกับผู้ที่มีไขมันเยอะ ผิวย้วย ไม่กระชับ ช่วยเกลียวเส้นใยคอลลาเจนให้แข็งแรงและทำให้ผิวแน่นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น 

นวัตกรรมการยกกระชับผิวมีความแตกต่างกันไปในแต่ละแบบ ทั้งเรื่องของผลลัพธ์, ราคา และการทำงานกับสภาพผิวเรา แต่ผลลัพธ์ที่มีความใกล้เคียงกันมากที่สุดคือช่วยให้ผิวกระชับเต่งตึง ลดเลือนริ้วรอยและความหย่อนคล้อย ผิวเปล่งปลั่ง เรียบเนียนมากขึ้น หน้าดูเด็กลงนั่นเอง

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับเกร็ดความรู้ดีๆ จาก ตรีชฎา-คลินิก คลินิกรักษาสิว จ.อุบลราชธานี หวังว่าจะได้รับประโยชน์กันทุกคนนะคะ วันนี้ลากันไปก่อน พบกันใหม่บทความหน้า สวัสดีค่ะ ❤️❤️❤️