2024-06-05 13:28:47
จำนวนครั้งที่อ่าน : 20
HIFU
กระบวนการทำงานของ HIFU จะส่งผ่านคลื่นโฟกัสอัลตราซาวด์ลงไปในผิวชั้นลึก โดยจะปล่อยความแรงของพลังงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ และสามารถเลือกใช้หัวยิงให้เหมาะกับระดับผิวได้ ซึ่งมีความลึกระดับชนิดของเครื่องเลเซอร์ ดังนี้
ผิวชั้นบน (Upper Dermis) ใช้หัวความลึก 1.5-2.0 mm ช่วยเรื่องยกกระชับ ลดริ้วรอยในระดับที่ไม่ลึกมาก และช่วยกระตุ้นคอลลาเจน
ผิวชั้นกลาง (Lower Dermis) ใช้หัวความลึก 3.0 mm ช่วยกระชับใบหน้า ลดไขมันและเซลลูไลต์
ผิวชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS) เป็นชั้นที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้าให้กระชับ ใช้หัวความลึก 4.5 mm ช่วยกระชับกล้ามเนื้อและยกแก้ม
HIFU
ลดความหย่อนคล้อยของผิว ใบหน้า และลำคอ
สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยบนผิวหน้า หน้าผาก และรอบดวงตา
แก้ปัญหาชั้นไขมันใต้คาง แก้ม เหนียง
ปรับสภาพหนังตาตก ยกหางตาและหางคิ้วขึ้น จึงทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น
ช่วยยกกระชับผิวบริเวณร่างกายส่วนอื่น เช่น ต้นแขน ท้องแขน หน้าท้อง เอว สะโพก ต้นขา เป็นต้น
HIFU
ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องรอการพักฟื้นนานๆ มีความปลอดภัยต่อผิวสูง
ไม่ทำร้ายผิวหนังบริเวณชั้นนอก ไม่มีรอยแดงช้ำ
ช่วยยกกระชับใบหน้า ลดเลือนริ้วรอยและสลายไขมันได้บางส่วน
ทำได้บ่อยครั้งและหลังการทำ HIFU ยังสามารถทำการรักษาอย่างอื่นอีกได้
ข้อเสียของการทำ HIFU
ในระหว่างทำต้องทนเจ็บในระดับหนึ่งจึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีได้
หลังทำ 1 – 2 ชั่วโมงอาจมีรอยแดงเล็กน้อย ต้องดูแลหลังทำเป็นพิเศษในช่วงแรกๆ เพื่อลดโอกาสเกิดการระคายเคือง
ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีการยกกระชับแบบอื่นๆ
HIFU
Hifu เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิวได้ทุกตำแหน่งที่ต้องการแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ปรับสัดส่วน ชะลอวัย หรือลดริ้วรอย โดยแบ่งได้เป็น 2 ส่วน ได้แก่
บนใบหน้า : เหนียง ลำคอ ร่องแก้ม เนื้อแก้ม ใต้ตา หน้าผาก และรอบดวงตา
ลำตัว : ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง รอบเอว และสะโพก
Hifu กรอบหน้าเป็นการใช้เครื่อง Hifu ส่งพลังงานไปที่ผิวกรอบหน้าเพื่อยกกระชับความหย่อนคล้อยหรือไขมันส่วนเกิน โดยการส่งพลังงานความร้อนลงไปที่ชั้นผิว หลังทำ Hifu บริเวณกรอบหน้าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีหลังทำเนื่องจากเป็นตำแหน่งที่เห็นผลในการทำได้ชัด
Hifu เป็นการยกกระชับที่ใช้เทคโนโลยีคลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูงเพื่อลดความหย่อนคล้อยของผิว ตัวเครื่องมีการส่งความร้อนลงไปในชั้นผิวจึงทำให้ผิวมีการสะสมความร้อนแต่ไม่ได้เป็นการทำร้ายผิวชั้นบน จึงไม่เกิดแผลหรือผิวไหม้ หลังทำจะมีเพียงอาการบวมเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปได้เองใน 1 – 2 สัปดาห์
HIFU
Hifu กรอบหน้าเป็นนวัตกรรมที่นำไปใช้แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของกรอบหน้า กรอบหน้าไม่ชัด หรือปรับสัดส่วนให้ดูเล็กลงได้ คนที่สามารถทำ Hifu กรอบหน้าได้มีดังนี้
คนที่มีใบหน้าที่ดูใหญ่ โครงหน้าไม่ชัด
คนที่มีเหนียง คางสองชั้น หรือหนังใต้คางย้อย
คนที่ต้องการให้มีใบหน้าที่ดูเรียวขึ้น
คนที่อยากปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องทำศัลยกรรม
คนที่อยากลดอายุให้กับใบหน้า
ข้อดีของการ Hifu กรอบหน้า
การทำ Hifu กรอบหน้าไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยแต่ยังช่วยให้เห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นหลังทำในหลายๆ ด้าน ได้แก่
ช่วยปรับกรอบหน้า ปรับสัดส่วนโดยไม่ต้องผ่านการศัลยกรรมหรือใช้เข็ม
ผลลัพธ์หลังทำดูเป็นธรรมชาติ
ลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงหรือการดมยาสลบ
สามารถใช้ชีวิตตามปกติโดยไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ
เพิ่มความมั่นใจ เสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี
สามารถถ่ายรูปหน้าใกล้หรือเซลฟี่ได้โดยไม่ต้องกลัวดูหน้าใหญ่
ทำผมได้หลากหลายทรงมากยิ่งขึ้น
ลดขั้นตอนไฮไลท์และเฉดดิ้งเพื่อทำหน้าเรียวเวลาแต่งหน้า
HIFU
ผลลัพธ์ของการ Hifu กรอบหน้าเป็นอย่างไร?
หลังจากทำ Hifu กรอบหน้าใน 1 – 2 สัปดาห์แรกจะยังมีอาการบวมหรือแดงหลังผ่านความร้อน แต่หลังจากนั้นเมื่ออาการข้างเคียงหายไป ผลลัพธ์ของ Hifu จะชัดขึ้นเรื่อยๆ กรอบหน้ากระชับ ไขมันลดลง และผิวดูเรียบเนียน ใบหน้าดูเรียวขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมดูอ่อนเยาว์ลง
Hifu กรอบหน้า VS ปรับกรอบหน้าด้วยวิธีอื่น
ปัญหากรอบหน้าไม่ชัดเพราะหน้าใหญ่ มีไขมัน หรือมีเหนียง สามารถแก้ได้หลายวิธีไม่เพียงแต่การทำ Hifu เท่านั้น ซึ่งการทำ Hifu มีข้อดีและจุดเด่นที่ต่างจากวิธีปรับกรอบหน้าอื่นๆ ดังนี้
Hifu VS Ulthera
Hifu และ Ulthera ต่างเป็นนวัตกรรมยกกระชับที่ส่งความร้อนระหว่าง 45 – 70 องศา ลงไปที่ชั้นผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แต่ Hifu จะปล่อยพลังงานในลักษณะของจุดไข่ปลาเล็กๆ ขนาด 0.5 – 1 มิลลิเมตร ในขณะที่ Ulthera จะมีจุดขนาดใหญ่กว่า จึงทำให้การทำ Ulthera รู้สึกเจ็บมากกว่า
Hifu VS Thermarge
Thermarge เองเป็นการยกกระชับเช่นเดียวกันกับ Hifu แต่จะส่งพลังงานในลักษณะของก้อนขนาดใหญ่ 3 – 4 เซนติเมตร กระจายตัวในวงกว้างโดยไม่สามารถควบคุมทิศทางได้ จึงเป็นนวัตกรรมที่เหมาะกับทำในพื้นที่กว้าง ลดไขมันได้ดี เป็นการยกกระชับที่ทำให้รู้สึกเจ็บมากที่สุด และได้ผลลัพธ์ในเรื่องลดริ้วรอยมากกว่าการยกกระชับ
Hifu VS ร้อยไหม
Hifu จะมีความต่างกับการร้อยไหมตรงที่ Hifu เป็นวิธีการปรับกรอบหน้าโดยการส่งพลังงานความร้อนสู่ชั้นผิวเพื่อลดความหย่อนคล้อยที่ผิวโดยตรง ในขณะที่การร้อยไหมจะใช้เส้นไหมสอดลงที่ใต้ผิวแล้วทำการดึงแก้มขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่มีการใช้เข็มแทงลงในผิว ขณะทำสามารถรู้สึกได้ถึงแรงเกี่ยวดึงเส้นไหม จึงไม่เหมาะกับคนที่มีความกังวล หรือกลัวเลือดจากการใช้เข็ม
Hifu VS ฉีดเมโสแฟต
เมโสแฟตจะเป็นการฉีดตัวยาเพื่อสลายไขมัน สามารถใช้ลดแก้มและเหนียงได้ เหมาะกับคนที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัดจากไขมันส่วนเกิน ซึ่งต่าจาก Hifu ตรงที่ไม่สามารถยกกระชับความหย่อนคล้อยได้ และเป็นวิธีที่ต้องใช้เข็มจึงไม่เหมาะกับคนที่กลัวเข็มนั่นเอง
Hifu VS โบท็อกปรับรูปหน้า
โบท็อกหน้าเรียวจะต่างกับ Hifu ตรงที่ โบท็อกเป็นหัตถการที่ใช้การฉีดตัวยาโบท็อกลงไปที่บริเวณกรามเพื่อลดสัดส่วน ซึ่งจะเป็นการออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานกล้ามเนื้อกรามชั่วคราว ทำให้เห็นผลได้ดีในคนที่มีกรอบหน้าใหญ่จากสาเหตุของกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ไม่สามารถทำเพื่อกระชับความหย่อนคล้อยหรือลดไขมันบนใบหน้าได้
ทำ Hifu พร้อมโบท็อกได้ไหม?
คนที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด หน้าใหญ่แล้วต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสามารถทำ Hifu พร้อมกับฉีดโบท็อกกรามได้ แต่ต้องเป็นกรณีที่มีสาเหตุกรอบหน้าไม่ชัดจากการมีกล้ามเนื้อกรามหนาพร้อมกับความหย่อนคล้อยหรือไขมัน หากไม่ได้มีปัญหากล้ามเนื้อกรามใหญ่ก็ไม่จำเป็นต้องทำควบคู่กัน เลือกทำ Hifu เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอ
ทำ Hifu เห็นผลกรอบหน้ากระชับทันทีเลยไหม?
หลังทำ Hifu ในครั้งแรกจะเห็นผลความเปลี่ยนแปลงทันทีประมาณ 20% หลังทำ ซึ่งอาจไม่แตกต่างจากก่อนทำมากนัก คนไข้ยังไม่ต้องกังวลว่าผลลัพธ์หลังทำไม่ดีเท่าที่หวังเพราะการทำ Hifu ต้องใช้ระยะเวลาให้เห็นผลประมาณ 2 – 3 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ Hifu เห็นผลได้อย่างเต็มที่ และควรทำซ้ำต่อเนื่องเพื่อให้ Hifu เห็นผลที่ดีต่อไป
Hifu ปรับกรอบหน้าเจ็บไหม?
ความรู้สึกขณะทำ Hifu กรอบหน้าจะขึ้นอยู่กับความอดทนของคนไข้แต่ละคน เนื่องจากเครื่อง Hifu สามารถปรับพลังงานและระยะเวลาในการทำได้ หากยิ่งทนเจ็บได้เยอะก็จะส่งผลให้ผลลัพธ์หลังทำชัดยิ่งขึ้น ระหว่างทำจะรู้สึกดึงๆ และปวดใต้ชั้นผิวเนื่องจากมีการหดตัวและยกกระชับขึ้นขณะทำ ซึ่งก่อนทำจะมีการทายาชาลดอาการเจ็บให้ทุกครั้งเพื่อช่วยบรรเทาอาการขณะทำ
หลังทำ Hifu ควรดูแลอย่างไร?
เมื่อทำ Hifu ผิวจะมีการโดนความร้อนและเกิดการกระชับขึ้นอย่างรวดเร็ว คอลลาเจนทำการสร้างตัวขึ้นใหม่ จึงต้องมีการดูแลหลังทำที่ช่วยไม่ให้คอลลาเจนสลายตัว แนะนำให้ดูแลด้วยวิธีต่อไปนี้
ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวเป็นประจำเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
หลีกเลี่ยงการเจอแสงแดดและมลภาวะ ปกป้องด้วยการทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป
งดโดนความร้อนหรือโดนแดดโดยตรง 1 – 2 สัปดาห์
งดสัมผัส ขัดถู หรือสครับผิวแรงๆ
งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
ตรีชฎา-คลินิก คลินิกรักษาสิว จังหวัดอุบลราชธานี รักษาสิว ทุกชนิด สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวฮอร์โมน สิวสเตียรอยด์ แพ้ครีม แพ้เครื่องสำอาง ทรีทเม้นท์ ไอพีแอล เลเซอร์ คิดถึงเรา โทร 061-550-9396 LINE ID: @629inyrd
Share to Social Networks
บริการเว็บไซต์โดย 8columns.com