2024-06-20 10:45:46
จำนวนครั้งที่อ่าน : 24
Cellulitis (เซลล์เนื้อเยื่ออักเสบ) คือ ภาวะติดเชื้อบริเวณผิวหนังหรือเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง ส่งผลให้มีอาการบวมแดง ปวด หรือร้อนบริเวณที่มีการติดเชื้อ บางรายอาจมีไข้หรืออาการอื่น ๆ ร่วมด้วย แต่ในกรณีที่รุนแรง การติดเชื้ออาจแพร่กระจายสู่กระแสเลือดและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ซึ่งภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนบนร่างกาย แต่มักเกิดบริเวณขา โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่อาจเข้าสู่ร่างกายผ่านทางรอยแผล รอยแตก หรือผิวหนังที่บอบบาง
CELLULITIS
CELLULITIS
CELLULITIS
อาการของ Cellulitis คือ บริเวณที่ติดเชื้อจะมีอาการบวม แดง และมีแนวโน้มขยายเป็นบริเวณกว้าง รวมทั้งอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ดังนี้
มีไข้
มีอาการปวดภายใน 1-2 วันแรกที่เริ่มเกิดอาการ และเจ็บเมื่อถูกกดหรือสัมผัสโดนบริเวณนั้น
รู้สึกอุ่นหรือร้อนบริเวณที่เกิดการติดเชื้อ
เกิดแผล หรือมีผื่นขึ้นบริเวณที่เกิดอาการ และอาจขยายตัวลุกลามไปอย่างรวดเร็ว
เกิดรอยบุ๋มบริเวณผิวหนัง
ปวดกล้ามเนื้อ
ทั้งนี้ หากมีอาการต่อไปนี้ร่วมกับอาการข้างต้น ควรรีบไปปรึกษาแพทย์โดยเร็ว เพราะเชื้ออาจแพร่กระจายสู่ส่วนอื่น หรืออาจเข้าสู่กระแสเลือดจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
มีไข้สูง หนาวสั่น ตัวซีด
ผิวมีสีม่วงขึ้นเป็นหย่อม ๆ
หัวใจเต้นเร็ว หายใจเร็ว
ร่างกายไม่ตอบสนอง หรืออาจหมดสติ
Cellulitis เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ชนิดที่พบได้บ่อย คือ สเตรปโทคอกคัส (Streptococcus) และสแตฟิโลค็อกคัส (Staphylococcus) เชื้อเหล่านี้สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนังที่เกิดรอยแยกหรือรอยแตก เช่น ผิวหนังแห้งแตกจากสภาพอากาศหรือมีผิวบอบบาง มีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในแผล มีรอยแผลจากการผ่าตัด ถูกแมลงหรือสัตว์กัด เป็นต้น ซึ่งบางครั้งรอยแตกนั้นอาจเล็กเกินกว่าจะสังเกตเห็นหรือรู้สึกได้ ทำให้ผู้ป่วยไม่ทันได้ระวังตัวจนเป็นเหตุให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น โดย Cellulitis ไม่ใช่โรคติดต่อ เพราะเป็นการติดเชื้อที่ผิวหนังชั้นใน จึงไม่สามารถรับเชื้อมาจากผู้อื่นได้
เกิดแผลบริเวณผิวหนัง ทำให้แบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายได้ เช่น มีรอยตัด รอยแตก แผลไฟไหม้ เป็นต้น
เป็นโรคผิวหนัง เช่น ผิวหนังอักเสบ น้ำกัดเท้า เป็นต้น
มีน้ำหนักมากเกินมาตรฐาน
มีประวัติเคยเป็น Cellulitis มาก่อน
ได้รับยาผ่านการฉีดเข้าเส้นเลือดดำโดยตรง
เป็นโรคตับ เช่น ตับแข็ง ตับอักเสบ เป็นต้น
มีปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต เช่น เลือดไปเลี้ยงแขนและขาไม่เพียงพอ เส้นเลือดขอด ระบบน้ำเหลืองไหลเวียนไม่ดี เป็นต้น
เป็นโรคหรือภาวะที่ส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น โรคเบาหวาน การใช้ยาบางชนิดที่อาจทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เป็นต้น
การวินิจฉัย Cellulitis
สำหรับการวินิจฉัย Cellulitis นั้น แพทย์สามารถทำได้โดยซักประวัติ ตรวจร่างกายทั่วไป และตรวจดูบริเวณที่มีอาการ โดยบางกรณีอาจมีการตรวจเพิ่มเติมด้วยการเอกซเรย์หาสิ่งแปลกปลอมบริเวณที่เกิดอาการ การตรวจเลือดดูการติดเชื้อ และการเจาะนำตัวอย่างของเหลวในบริเวณที่เกิดอาการไปตรวจในห้องปฏิบัติการ
การรักษา Cellulitis ในเบื้องต้น แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะชนิดรับประทานตามความรุนแรงของอาการ แรกเริ่มอาจให้รับประทานยาประมาณ 7-14 วัน แต่ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงอาจต้องรับประทานยานานกว่านั้น โดยแพทย์จะคอยดูแลอาการควบคู่ไปด้วย ซึ่งผู้ป่วยมักมีอาการดีขึ้นหลังจากได้รับยาภายใน 2-3 วัน แต่หากอาการไม่ดีขึ้น มีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ หรือมีไข้สูงร่วมด้วย ผู้ป่วยอาจต้องรับยาปฏิชีวนะชนิดฉีดเข้าเส้นเลือดโดยตรงพร้อมทั้งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ดูแลอาการอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ผู้ป่วยอาจบรรเทาอาการด้วยตนเองที่บ้านควบคู่ไปกับการรักษาจากแพทย์ เพื่อช่วยให้อาการหายเร็วขึ้น โดยอาจปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้
ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อป้องกันอาการขาดน้ำ
หยุดใช้งานอวัยวะหรือบริเวณที่มีการติดเชื้อ
ควรยกบริเวณที่มีอาการให้อยู่สูงกว่าระดับหัวใจขณะนอนหรือนั่ง เพื่อลดอาการบวม โดยอาจใช้หมอนรองไว้บริเวณที่มีอาการ
รับประทานยาพาราเซตามอลหรือยาไอบูโพรเฟน เพื่อบรรเทาอาการปวด
หมั่นขยับข้อต่อที่อยู่ใกล้กับบริเวณที่เกิดอาการ เพื่อป้องกันอาการข้อฝืด เช่น ข้อเท้า ข้อมือ หัวเข่า เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หากมีอาการรุนแรงมาก ผู้ป่วยอาจต้องเข้ารับการผ่าตัดนำเนื้อเยื่อที่ตายออกไปและดูดหนองออกจากแผล เพื่อให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้น
หากเกิดภาวะ Cellulitis แล้วไม่ได้รับการรักษาทันเวลา เชื้อดังกล่าวอาจแพร่กระจายไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย อาจเกิดการติดเชื้อลามเข้าไปยังเนื้อเยื่อชั้นใน จนทำให้เกิดภาวะแบคทีเรียกินเนื้อ ซึ่งถือเป็นภาวะร้ายแรงที่แม้พบได้น้อยมาก แต่หากกลับมาเป็นซ้ำอีกก็สามารถส่งผลกระทบกับระบบระบายน้ำเหลือง และทำให้แขนขาบวมแบบเรื้อรังได้ นอกจากนี้ Cellulitis อาจทำให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงและถึงขั้นเสียชีวิตจากการติดเชื้อได้ เช่น เนื้อเยื่อตาย ติดเชื้อในกระแสเลือด ติดเชื้อในกระดูก เป็นต้น
โดยทั่วไปอาจลดความเสี่ยงของภาวะ Cellulitis ได้โดยการดูแลสุขอนามัยของร่างกายและผิวหนัง เช่น
ไม่แกะหรือเกาผิวหนัง เพราะบางครั้งการเกาสามารถทำให้เกิดแผลได้ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคผิวหนังมักจะมีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อมากขึ้น
หากมีผิวแห้งควรใช้ครีมทาบำรุงผิว เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้นและไม่เสี่ยงต่อการแห้งแตกจนทำให้เชื้อโรคสามารถเข้าสู่ร่างกายได้
สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันการบาดเจ็บและการเกิดแผลทุกครั้งที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ทำงานที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์แหลมคม เล่นกีฬาที่มีการปะทะ เป็นต้น
ผู้ที่มีบาดแผลควรทำความสะอาดแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาดทุกวัน โดยใช้ผ้าพันแผลหรือพลาสเตอร์สะอาดปิดแผลไว้ เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย
ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมีปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ง่าย ควรระมัดระวังไม่ให้เกิดบาดแผลตามผิวหนัง
ตรีชฎา-คลินิก คลินิกรักษาสิว จังหวัดอุบลราชธานี รักษาสิว ทุกชนิด สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวฮอร์โมน สิวสเตียรอยด์ แพ้ครีม แพ้เครื่องสำอาง ทรีทเม้นท์ ไอพีแอล เลเซอร์ คิดถึงเรา โทร 061-550-9396 LINE ID: @629inyrd
Share to Social Networks
บริการเว็บไซต์โดย 8columns.com