2024-07-30 09:11:59
จำนวนครั้งที่อ่าน : 24
หนังศีรษะลอกเป็นอาการที่ผิวบริเวณหนังศีรษะเกิดการแห้ง ลอกเป็นขุยหรือเป็นแผ่น และอาจมีอาการคันร่วมด้วย โดยเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การสระผมบ่อย การระคายเคืองจากสารเคมี สภาพอากาศ และโรคผิวหนังที่เกิดบริเวณหนังศีรษะ ซึ่งส่งผลต่อบุคลิกภาพและอาจรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน
การรักษาหนังศีรษะลอกจะแตกต่างกันไปตามสาเหตุ บางสาเหตุอาจหายได้เองด้วยการปรับพฤติกรรมการดูแลเส้นผมและงดใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการะคายเคือง แต่กรณีที่เกิดจากโรคผิวหนัง อาการอาจไม่ดีขึ้นหรือแย่ลงจากการเกาหนังศีรษะหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม จึงควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างตรงจุด
ปัจจัยที่ทำให้หนังศีรษะลอก
หนังศีรษะลอกอาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น
1. หนังศีรษะแห้ง
หนังศีรษะแห้งเกิดจากการที่ผิวบริเวณหนังศีรษะขาดความชุ่มชื้น ทำให้เกิดการระคายเคือง แห้งลอก และคัน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการผิวแห้งและเป็นขุยที่ส่วนอื่นของร่างกายด้วย โดยอาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้
การสระผมบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้น้ำมันที่อยู่บนหนังศีรษะถูกชะล้างออกไป ทำให้หนังศีรษะแห้งและลอก
การใช้แชมพู ครีมนวดผม หรือผลิตภัณฑ์จัดแต่งผมที่มีสารดึงความชุ่มชื้นและน้ำมันจากหนังศีรษะ
การใช้ไดร์เป่าผม และอุปกรณ์ทำผมที่ใช้ความร้อนบ่อยเกินไป เพราะความร้อนจากอุปกรณ์เหล่านี้จะทำให้ผมแห้งเสีย และอาจทำให้หนังศีรษะแห้งลอก
การอยู่ในสภาพอากาศที่แห้งและเย็น
อายุที่มากขึ้น จะทำให้หนังศีรษะแห้งมากขึ้น
2. รังแค
รังแคเกิดจากหนังศีรษะแบ่งตัวมากผิดปกติและเกิดการหลุดลอกออกมาเป็นแผ่นสะเก็ดสีขาวบนหนังศีรษะ และอาจมีอาการคัน ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การไม่ได้สระผมเป็นประจำหรือสระผมไม่สะอาด ทำให้น้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วก่อตัวเป็นรังแค หรืออาจเกิดจากสภาพอากาศเย็น ความเครียด การใช้แชมพูที่มีสารเคมีรุนแรงที่ทำให้หนังศีรษะระคายเคือง การขาดสารอาหาร และโรคประจำตัวบางอย่าง
นอกจากนี้ โรคผิวหนังบางชนิดอาจทำให้เกิดรังแค เช่น โรคผิวหนังอักเสบ (Seborrheic Dermatitis) ผื่นผิวหนังอักเสบ (Eczema) โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) และการติดเชื้อราบนหนังศีรษะ
3. โรคผื่นระคายสัมผัส (Contact Dermatitis)
โรคผื่นระคายสัมผัสsเป็นอาการผื่นแดงและลอกบนผิวหนังที่มักทำให้รู้สึกคันและไม่สบายตัว ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกายหลังจากผิวหนังสัมผัสสารก่อภูมิแพ้หรือสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง การใช้แชมพู ครีมนวดผม หรือผลิตภัณฑ์จัดแต่งผมบางชนิดอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองที่หนังศีรษะ และทำให้หนังศีรษะลอกได้
4. โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)
สะเก็ดเงินเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่เกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังรวดเร็วผิดปกติ ซึ่งพบได้ทั่วร่างกาย และพบได้บ่อยบริเวณหนังศีรษะ สะเก็ดเงินที่หนังศีรษะมักมีลักษณะเป็นแผ่นหนาขนาดใหญ่ เป็นขุยสีขาว และทำให้รู้สึกคัน
ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของโรคสะเก็ดเงิน แต่คาดว่าเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน หรืออาจเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น การติดเชื้อ การบาดเจ็บบริเวณผิวหนัง การใช้ยาบางชนิด การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่
5. ชันนะตุ (Tinea Capitis)
ชันนะตุคือการติดเชื้อราบนหนังศีรษะ ซึ่งเป็นเชื้อราชนิดเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคกลากทำให้หนังศีรษะลอกเป็นขุยหรือเป็นแผ่น ผมร่วงเป็นหย่อม ผมเปราะหัก และอาจเกิดการอักเสบและคัน ทั้งนี้ ชันนะตุพบบ่อยในเด็กอายุ 5–14 ปี และสามารถติดต่อจากคนไปสู่คนได้ง่ายด้วยการสัมผัสใกล้ชิด หรือการใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกัน เช่น หวี ผ้าเช็ดตัว หมวก
6. กระแดด (Actinic Keratosis)
กระแดด_กระแดดมีลักษณะเป็นสะเก็ดหนา แห้งลอก สัมผัสหยาบคล้ายกระดาษทราย บางครั้งอาจมีลักษณะเป็นตุ่มนูน โดยอาจปรากฏเป็นสีต่าง ๆ เช่น สีชมพูและน้ำตาล เกิดขึ้นบนผิวหนังบริเวณที่ได้รับแสงแดดเป็นเวลานาน เช่น หนังศีรษะ และบริเวณอื่น เช่น ใบหน้า และลำคอ
กระแดดพบมากในผู้สูงอายุที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ผู้ที่ตากแดดเป็นประจำ และคนที่ผมบางหรือศีรษะล้าน เพราะเส้นผมจะช่วยปกป้องหนังศีรษะจากการทำลายของแสงแดด นอกจากนี้ กระแดดอาจเกิดจากพันธุกรรม หากคนในครอบครัวเป็นกระแดด อาจทำให้ลูกหลานมีโอกาสเป็นกระแดดมากขึ้น
เทคนิคดูแลหนังศีรษะลอก
การดูแลรักษาหนังศีรษะลอกอาจแตกต่างกันตามสาเหตุ โดยในเบื้องต้นสามารถดูแลหนังศีรษะได้ด้วยวิธีเหล่านี้
สระผมทุกวันวันละ 1 ครั้งด้วยแชมพูที่อ่อนโยนต่อหนังศีรษะและเส้นผม ตามด้วยครีมนวดผมที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผม
ใช้น้ำล้างฟองแชมพูและครีมนวดผมออกให้สะอาด เพื่อไม่ให้สารเคมีจากแชมพูและครีมนวดผมหลงเหลือและตกค้างอยู่บนเส้นผมและหนังศีรษะ ซึ่งอาจทำให้หนังศีรษะระคายเคืองและลอกได้
หลีกเลี่ยงการใช้แชมพู ครีมนวดผม และผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมที่มีสารเคมีรุนแรง เช่น สารฟอกสีผม และแอลกอฮอล์ที่ให้เส้นผมและหนังศีรษะแห้งลอก
ควรปล่อยให้ผมแห้งตามธรรมชาติ หรือใช้พัดลมเป่าให้ผมแห้ง ไม่ควรใช้ไดร์เป่าผม เครื่องหนีบหรือม้วนผมบ่อยเกินไป และควรใช้สเปรย์ป้องกันผมแห้งเสียจากความร้อนก่อนใช้อุปกรณ์เหล่านี้เสมอ
ใช้แชมพูขจัดรังแคที่มีส่วนผสมของซีลีเนียมซัลไฟด์ (Selenium Sulfide) ซิงค์ไพริไทออน (Zinc Pyrithione) คีโตโคนาโซล (Ketoconazole) กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
หยุดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่ทำให้เกิดการระคายเคืองและโรคผื่นระคายสัมผัส
ใช้น้ำมันใส่ผมที่สกัดจากสารธรรมชาติ เช่น โจโจ้บาออยล์ (Johoba Oil) น้ำมันมะกอก และน้ำมันอาร์แกน (Argan Oil) ซึ่งช่วยให้ผมนุ่มลื่น และบำรุงหนังศีรษะที่แห้งลอกให้ชุ่มชื้นขึ้น
จัดการความเครียดด้วยกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น โยคะ นั่งสมาธิ และการฝึกลมหายใจ
หากใช้วิธีเหล่านี้แล้วอาการหนังศีรษะลอกยังไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจและรักษา ซึ่งแพทย์อาจรักษาตามสาเหตุของโรค เช่น
ครีมหรือโลชั่นที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ยาต้านเชื้อราชนิดรับประทานและชนิดทาลงบนหนังศีรษะ หรือยาชนิดน้ำมันสำหรับทาทิ้งไว้บนหนังศีรษะข้ามคืน สำหรับผู้ที่เป็นรังแคชนิดรุนแรง
แชมพูยา ครีม หรือขึ้ผึ้งทาหนังศีรษะที่มีสเตียรอยด์ ยาชนิดรับประทาน เช่น อะพรีมิลาส (Apremilast) และการรักษาด้วยการฉายแสง (Light Therapy) สำหรับผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงิน
แชมพูยาที่มีสารซีลีเนียมซัลไฟด์ ยาสเตียรอยด์ชนิดทา และยาต้านเชื้อราชนิดครีม สำหรับผู้ที่เป็นชันนะตุ
ยาทา เช่น ยาฟลูออโรยูราซิล (Fluorouracil) และยาอิมิควิโมด (Imiquimod) การฉายแสงโฟโตไดนามิก (Photodynamic Therapy) การผ่าตัดด้วยความเย็น สำหรับผู้ที่เป็นกระแดด
หนังศีรษะลอกเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น สภาพอากาศ การสระผมและใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผม รวมทั้งโรคผิวหนังที่เกิดบนหนังศีรษะ หากอาการหนังศีรษะลอกไม่ดีขึ้นจากการดูแลตัวเอง หรือมีอาการคัน มีผื่นแดงบวม รู้สึกเจ็บและรู้สึกอุ่นเมื่อสัมผัสที่หนังศีรษะ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาต่อไป
ตรีชฎา-คลินิก คลินิกรักษาสิว จังหวัดอุบลราชธานี รักษาสิว ทุกชนิด สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวฮอร์โมน สิวสเตียรอยด์ แพ้ครีม แพ้เครื่องสำอาง ทรีทเม้นท์ ไอพีแอล เลเซอร์ คิดถึงเรา โทร 061-550-9396 LINE ID: @629inyrd
Share to Social Networks
บริการเว็บไซต์โดย 8columns.com