2024-09-10 09:41:55
จำนวนครั้งที่อ่าน : 122
Urea Cream หรือยูเรีย ครีม คือยาทาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว ใช้รักษาอาการผิวแห้ง ลอก และหยาบกร้าน และช่วยให้เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วหลุดลอกออก จึงเป็นส่วนผสมที่นิยมใช้ในโลชั่นหรือครีมบำรุงผิวสำหรับคนที่มีผิวแห้ง รวมทั้งช่วยบรรเทาอาการคันจากอาการต่าง ๆ เช่น เล็บขบ ตาปลา หนังหนา สะเก็ดเงิน ผื่นผิวหนังอักเสบ และช่วยให้บาดแผลบางชนิดหายเป็นปกติได้ด้วย
โดยปกติแล้ว ผิวหนังชั้นนอกสุดของเราประกอบด้วยสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติที่เรียกว่า Natural Moisturizing Factors (NMFs) แต่ผิวหนังอาจสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายจากหลายปัจจัย เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น อากาศที่แห้งและเย็น และการใช้สบู่ที่มีสารรุนแรงต่อผิว จึงทำให้ผิวแห้ง ลอกเป็นขุย และคัน
การใช้ยูเรียเป็นสารในกลุ่ม NMFs ที่มีคุณสมบัติในการดึงน้ำที่ลอยอยู่ในอากาศและน้ำจากผิวชั้นลึกลงไปเข้าสู่ผิวหนังชั้นนอก จึงทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น ทั้งนี้ การใช้ Urea Cream ร่วมกับสารอื่นในกลุ่ม NMFs อย่างกลีเซอรีน (Glycerine) ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง หรือสารให้ความชุ่มชื้นอื่น เช่น เซราไมด์ (Ceramide) ซึ่งช่วยดูแลผิวที่แห้งและคันจากปัญหาผิวต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
เกี่ยวกับยูเรียครีม
กลุ่มยา: ยารักษาโรคผิวหนังประเภทยา: ยาที่หาซื้อได้เอง ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ: เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว และช่วยให้เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วหลุดลอกออก
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์และผู้ให้นมบุตร : Category C จากการศึกษาในสัตว์พบว่า ทำให้เกิดความผิดปกติต่อตัวอ่อนในครรภ์สัตว์ แต่ไม่มีการศึกษาในมนุษย์ หรือไม่มีข้อมูลเพียงพอในการศึกษาทดลองในมนุษย์และสัตว์ ควรใช้ยาเมื่อพิจารณาแล้วว่า มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อทารกในครรภ์ ผู้ที่ตั้งครรภ์หรือกำลังวางแผนตั้งครรภ์ และผู้ที่ให้นมบุตรควรปรึกษาแพทย์หากต้องใช้ยา Urea Cream ซึ่งควรใช้ยานี้เฉพาะในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น
รูปแบบของยา: ยาใช้ภายนอก
คำเตือนในการใช้ Urea Cream
เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้ Urea Cream ผู้ใช้ยาควรระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้
ห้ามใช้ยา Urea Cream ในผู้ที่แพ้ยูเรียหรือส่วนผสมอื่น ๆ ตามที่ระบุในฉลาก ผู้ป่วยต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้เสมอ
ใช้ยา Urea Cream ทารักษาอาการผิดปกติของผิวหนังเท่านั้น ห้ามรับประทานยานี้
ก่อนใช้ยาต้องแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับอาการผิดปกติของผิวหนัง โดยเฉพาะหากผิวหนังมีบาดแผลหรือติดเชื้อ
ห้ามทายานี้บนผิวหนังบริเวณรอบดวงตา และห้ามทายาหากมีอาการระคายเคืองหรือมีแผลเปิด
ยา Urea Cream อาจทำให้ผิวหนังไวต่อแสงแดด ผู้ป่วยจึงควรหลีกเลี่ยงการออกแดด และทาครีมกันแดดในระหว่างที่ใช้ยานี้
ไม่ควรใช้ยานี้ร่วมกับผู้อื่น
แจ้งให้แพทย์ทราบทันทีหากมีอาการผิวหนังแดง ผิวไหม้แดด หรือมีตุ่มขึ้นหลังจากทายานี้
เสื้อผ้าอาจเป็นรอยด่างได้หากสัมผัสกับยานี้
ทายา Urea Cream บาง ๆ บริเวณผิวหนังที่ต้องการรักษาวันละ 1–3 ครั้ง แล้วนวดจนกว่ายาจะซึมเข้าสู่ผิวหนัง หรือใช้ยานี้ตามวิธีที่แพทย์แนะนำ
การใช้ Urea Cream
วิธีการใช้ Urea Cream เพื่อความปลอดภัย มีดังนี้
ใช้ยา Urea Cream ตามที่ระบุในฉลาก หรือตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด การทายานี้บ่อยเกินไปอาจทำให้อาการทางผิวหนังแย่ลงได้ และไม่ใช้ยานี้ติดต่อกันนานเกินกว่าแพทย์แนะนำ หากมีข้อสงสัยควรไปปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ยา Urea Cream บางชนิดต้องเขย่าขวดก่อนใช้ ผู้ใช้จึงควรอ่านฉลากและศึกษาวิธีใช้อย่างละเอียดก่อนเริ่มใช้
ทำความสะอาดบริเวณที่ต้องการรักษาแล้วค่อยทายาลงบนผิวหนังที่แห้งสนิท
ล้างมือก่อนและหลังทายา หากทายานี้เพื่อรักษาอาการผิดปกติบริเวณมือก็ไม่ต้องล้างมือหลังทายา
ทายาเฉพาะบริเวณที่ต้องการรักษาเท่านั้น
หลีกเลี่ยงการทายาในบริเวณที่ผ่านการโกน และบริเวณรอบดวงตา จมูก ปาก ขาหนีบ และอวัยวะเพศหญิง เพราะอาจทำให้เกิดอาการแสบร้อนได้ เว้นแต่เมื่อแพทย์แนะนำให้ใช้
ในบางกรณีอาจต้องใช้ผ้าพันแผลพันปิดบริเวณผิวหนังหลังทายา ซึ่งผู้ป่วยควรสอบถามแพทย์ก่อนการรักษา
หากลืมทายานี้ ให้ทายาทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ เว้นแต่เมื่อใกล้กับเวลาในการใช้ยาครั้งถัดไป โดยห้ามชดเชยด้วยการทายาในปริมาณที่มากขึ้น
หลังใช้ยาต้องปิดฝาผลิตภัณฑ์ให้สนิทแล้วเก็บยาให้พ้นมือเด็กที่อุณหภูมิห้องไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส ในบริเวณที่ห่างจากแสงแดด ความร้อน และสัตว์เลี้ยง
ไปพบแพทย์ทันทีหากใช้ยาแล้วอาการไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง รวมทั้งหากสงสัยว่าตนเองใช้ยานี้เกินปริมาณที่กำหนด
โดยทั่วไป การใช้ Urea Cream กับยาชนิดรับประทานหรือยาฉีดอื่นมักไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย อย่างไรก็ตาม ควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบก่อนเสมอหากใช้ยาหรืออาหารเสริมชนิดใดอยู่ ไม่ควรเริ่มหรือหยุดใช้ยาเอง และไม่ปรับปริมาณการใช้ยาด้วยตนเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ผลข้างเคียง Urea Cream
หลังใช้ยา Urea Cream ผู้ป่วยอาจมีอาการผิวหนังแดง ระคายเคือง แสบร้อน หรือรู้สึกเจ็บ หากอาการดังกล่าวไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง ควรรีบไปปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทันที นอกจากนี้ ผู้ป่วยที่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ และอาการแพ้ยา ซึ่งเกิดขึ้นได้น้อยแต่อาจเป็นผลข้างเคียงอันตราย ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที เช่น
ตรีชฎา-คลินิก คลินิกรักษาสิว จังหวัดอุบลราชธานี รักษาสิว ทุกชนิด สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวฮอร์โมน สิวสเตียรอยด์ แพ้ครีม แพ้เครื่องสำอาง ทรีทเม้นท์ ไอพีแอล เลเซอร์ คิดถึงเรา โทร 061-550-9396 LINE ID: @629inyrd
Share to Social Networks
บริการเว็บไซต์โดย 8columns.com