2024-09-19 13:06:41
จำนวนครั้งที่อ่าน : 121
Salicylic Acid (ซาลิไซลิก แอซิด) เป็นยาลอกผิวหนัง มีฤทธิ์ทำให้ผิวหนังหลุดลอกออก ใช้รักษาปัญหาผิวหนังต่าง ๆ เช่น ตาปลา โรคสะเก็ดเงิน โรคผิวหนังอักเสบเซบเดิร์ม สิว และโรคหูด นอกจากนั้น แพทย์อาจใช้ยานี้รักษาอาการอื่น ๆ ตามความเหมาะสม
คำเตือนในการใช้ Salicylic Acid
ผู้ที่มีประวัติแพ้ยา Salicylic Acid ไม่ควรใช้ยานี้
หากกำลังตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยา เพราะยังไม่ทราบแน่ชัดถึงอันตรายและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับทารก
ห้ามใช้ยากับเด็กที่มีไข้สูง เป็นหวัด หรืออีสุกอีใส เพราะอาจเสี่ยงเกิดภาวะกลุ่มอาการเรย์ (Reye's Syndrome) ซึ่งทำให้สมองและตับได้รับความเสียหาย และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
แจ้งให้แพทย์ทราบหากกำลังใช้ยาชนิดอื่น ๆ อยู่
โรคประจำตัวบางโรคหรือภาวะบางอย่าง อาจเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงอันตรายหลังใช้ยาได้ เช่น ผิวหนังอักเสบติดเชื้อ โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด หรือการไหลเวียนของเลือดผิดปกติ โรคเบาหวาน โรคตับ และโรคไต เป็นต้น ดังนั้น ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนใช้ยา
ห้ามใช้ยาชนิดนี้รักษาโรคผิวหนังอื่น ๆ เช่น ไฝ หรือหูดบนใบหน้า
ห้ามใช้ยาชนิดนี้บริเวณผิวที่ไหม้จากแสงแดด ผิวหนังอักเสบเนื่องจากถูกลมแรง ผิวหนังถลอก หรือแห้งแตก และผิวที่มีอาการระคายเคือง
หลีกเลี่ยงการใช้ Salicylic Acid กับยาชนิดอื่นทาในบริเวณเดียวกันหากไม่มีคำสั่งจากแพทย์
ห้ามสูบบุหรี่จนกว่าตัวยาจะซึมเข้าสู่ผิวหนังอย่างแห้งสนิท
ระวังอย่าให้ยาเข้าตา จมูก ปาก และเนื้อเยื่อเมือกอื่น ๆ หากสัมผัสกับยาในบริเวณดังกล่าว ควรรีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที
ยาอาจไวต่อไฟและความร้อน ห้ามจุดไฟหรืออยู่ใกล้บริเวณที่มีความร้อนสูงในขณะใช้ยา
ไม่ควรใช้ยาในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี
ปริมาณการใช้ Salicylic Acid
ผู้ใหญ่ ทายาความเข้มข้น 0.5-2 เปอร์เซ็นต์ บาง ๆ ลงบนผิว วันละ 1-3 ครั้ง เป็นประจำทุกวัน แล้วอาจลดลงเหลือวันละ 1 ครั้ง หรือวันเว้นวัน หากเกิดภาวะผิวแห้งหรือผิวหลุดลอกออก
รักษาผิวหนังที่หนาตัวขึ้นและผิวหนังที่แห้งแตก
ผู้ใหญ่ ทายาความเข้มข้น 1.8-3 เปอร์เซ็นต์ บาง ๆ ลงบนผิว วันละ 1-4 ครั้ง เป็นประจำทุกวันจนอาการดีขึ้น
รักษาหูดหรือตาปลา
ผู้ใหญ่ ทายาความเข้มข้น 5-17 เปอร์เซ็นต์ ลงบนผิว ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วจึงทายาซ้ำ 1-2 ครั้ง/วัน จนกว่าตาปลาหรือหูดจะหลุดออก
ผู้ใหญ่ ใช้ยาชนิดแผ่นแปะความเข้มข้น 12-40 เปอร์เซ็นต์ แปะทิ้งไว้ 48 ชั่วโมง จากนั้นจึงดึงแผ่นแปะออก แล้วใช้แผ่นใหม่แปะซ้ำจนหูดหรือตาปลาหลุดออก ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์
การใช้ Salicylic Acid
ก่อนใช้ยา ควรอ่านฉลากยาทุกครั้ง และใช้ยาตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ใช้ยาปริมาณเกินกว่าหรือนานกว่าระยะเวลาที่แพทย์กำหนด และไม่ใช้ยารักษาโรคผิวหนังอื่น ๆ โดยไม่ปรึกษาแพทย์
ควรทดสอบการแพ้ทางผิวหนังก่อนเริ่มใช้ยา เพื่อป้องกันอาการแพ้และการระคายเคือง โดยทายาลงบนผิวเป็นจุดเล็ก ๆ ต่อเนื่องนาน 3 วัน หากไม่มีอาการแพ้จึงเริ่มใช้ยาตามปริมาณที่แพทย์สั่งได้ในวันถัดไป
สำหรับการใช้ยารักษาหูดและตาปลา ให้ทำความสะอาดผิวหนังบริเวณนั้นด้วยแปรง ผ้าขนหนู หรือตะไบเล็บ เพื่อกำจัดผิวหนังที่ลอกออกก่อน จากนั้น ชะโลมน้ำลงบนผิวประมาณ 5 นาที ก่อนเริ่มใช้ยา
ควรใช้ยา Salicyclic Acid อย่างต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อเกิดประสิทธิผลทางการรักษาสูงสุด ซึ่งอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะเริ่มเห็นผล หากอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อปรับเปลี่ยนปริมาณหรือชนิดของยา
กรณีที่ลืมทายาตามเวลาที่กำหนด ให้ทายาทันทีที่จำได้ แต่หากใกล้รอบเวลาถัดไปที่ต้องทายา ให้ข้ามไปทายารอบถัดไปในปริมาณปกติ ไม่ควรทายาเกินปริมาณที่แพทย์สั่ง
ควรเก็บรักษายาในอุณหภูมิห้อง ให้ห่างจากความร้อน ความชื้น และแสงแดด เพราะอาจทำให้ยาเสื่อมสภาพได้
ผลข้างเคียงจากการใช้ Salicyclic Acid
การใช้ Salicyclic Acid อาจเกิดผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไป เช่น ผิวหนังระคายเคืองเล็กน้อย มีผื่นคัน ผิวหนังลอก และมีอาการแสบ อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรหยุดใช้ยาทันที และรีบไปพบแพทย์ หากปรากฏอาการดังต่อไปนี้
อาการแพ้ยาและผิวหนังระคายเคืองอย่างรุนแรง รู้สึกคัน เป็นลมพิษ เวียนศีรษะ มีอาการบวมที่ปาก ลิ้น หน้า และคอ
หายใจลำบาก
เวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลม
ปวดศีรษะอย่างรุนแรง
ได้ยินเสียงในหู มีปัญหาในการได้ยิน
ปวดท้องรุนแรง อาเจียน และท้องเสีย
ตรีชฎา-คลินิก คลินิกรักษาสิว จังหวัดอุบลราชธานี รักษาสิว ทุกชนิด สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวฮอร์โมน สิวสเตียรอยด์ แพ้ครีม แพ้เครื่องสำอาง ทรีทเม้นท์ ไอพีแอล เลเซอร์ คิดถึงเรา โทร 061-550-9396 LINE ID: @629inyrd
Share to Social Networks
บริการเว็บไซต์โดย 8columns.com